การดูแลสัตว์เลี้ยง พูดถึงแมวเชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงความน่ารักของพวกมัน จนหลายๆ คนหลงรัก และตกเป็นทาสแมวโดยไม่รู้ตัว แมวก็มีความลับที่น่าอัศจรรย์เช่นกัน ตัวไหนจะเยอะเป็นพิเศษในอวัยวะต่างๆ ต่อไปนี้เป็นข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ เกี่ยวกับแมวและความลับของพวกมัน ความเชื่อทั่วไปคือแมวมีสายตาที่ยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้อาจไม่ถูกต้องทั้งหมด สายตาของแมวมีลักษณะเฉพาะ
เนื่องจากโครงสร้างของดวงตามีส่วนช่วยในการมองเห็น แม้ว่าการมองเห็นในตอนกลางคืนของพวกมัน จะเหนือกว่าของมนุษย์อย่างเห็นได้ชัด แต่การมองเห็นในตอนกลางวันของพวกมัน ก็ยังไม่ได้รับการพัฒนาเท่าที่ควร ผู้ที่เลี้ยงแมวจะสังเกตเห็นว่า รูม่านตาหดตัวในสภาพแวดล้อมที่สว่าง ทำให้แสงจำกัด การปรับนี้ช่วยให้แมวมองเห็นวัตถุในระยะหนึ่งฟุต จากตำแหน่งของมันเมื่ออยู่ในแสงจ้า
นี่จึงกลายเป็นสาเหตุที่แมวค่อยๆ ยอมแพ้ ในการแอบดูเหยื่อ แมวสามารถมองเห็นได้เฉพาะสีน้ำเงิน และสีเหลืองเท่านั้น แม้ว่าสีเขียวและสีแดงจะไม่เด่นชัดมากนัก ทำให้แมวมองเห็นโลกได้ชัดเจนกว่าที่มนุษย์มองเห็น พูดถึงหนวดว่ากันว่าเป็นสมบัติของแมว เนื่องจากหนวดของแมวเป็นอวัยวะพิเศษที่ใช้รับความรู้สึก ในทางตรงกันข้าม หนวดแมวทำหน้าที่เหมือนเรดาร์ ช่วยให้พวกมันรับรู้และสำรวจสิ่งรอบตัว
เวลาในความมืดช่วยให้แมวของคุณเคลื่อนไหวได้อย่างมั่นใจ หนวดของแมวยาวและหนากว่าขนตามร่างกาย และหนวดของแมวจะเท่ากับความกว้างของลำตัวแมวเสมอ ดังนั้นหากหนวดของแมวสามารถผ่านตรอกแคบๆ ได้ แมวก็เช่นกัน เมื่อรู้ถึงความสำคัญใน การดูแลสัตว์เลี้ยง นี้แล้วใครก็ตามที่เลี้ยงแมวไม่ควรตัดเคราแมวโดยเด็ดขาด เพราะแบบนั้นจะทำให้หมดความมั่นใจจนหน้ามืดตามัวได้
แมวเป็นสัตว์ที่หูดีกว่ามนุษย์หลายเท่า ความสามารถในการได้ยินที่ดีมากนี้ ทำให้แมวใช้การได้ยินเป็นหนึ่งในประสาทสัมผัสในการหาเหยื่อ เพราะพวกมันสามารถได้ยินเสียงเล็กๆ ที่เกิดจากสัตว์ตัวเล็กๆ เช่น หนูหรือกระต่าย ด้วยเหตุนี้ แมวจึงสามารถหาเหยื่อได้แม้ว่า พวกมันจะซ่อนตัวอยู่ที่ใดก็ตาม แต่ในขณะเดียวกันแมวก็เป็นสัตว์ที่ไม่ชื่นชอบเสียงดัง และไม่ชอบอยู่ในที่วุ่นวาย เนื่องจากแมวมีความสามารถในการได้ยินเสียงดังกว่ามนุษย์ถึง 10 เท่า
แน่นอนว่าเสียงเหล่านี้อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของแมวในระยะยาว ใครก็ตามที่เลี้ยงแมวควรมีที่เงียบสงบให้แมวได้พักผ่อน และไม่ควรนำแมวไปที่ที่แมวสามารถพักผ่อนได้ ความสับสนและเสียงรบกวนเป็นเวลานาน เนื่องจากขัดกับพฤติกรรมตามธรรมชาติของแมวจริงๆ แม้ว่าประสาทสัมผัสของกลิ่นจะไม่ดีเท่าสุนัข แต่แมวก็มีประสาทรับกลิ่นที่ไวมาก เนื่องจากโพรงจมูกของแมวมีขนาดใหญ่กว่าโพรงจมูกของมนุษย์ถึง 5 เท่าเมื่อเทียบกับขนาดตัว
แมวจึงต้องใช้ประสาทรับกลิ่นในการแยกแยะว่าใครเป็นใคร รวมถึงใช้กลิ่นสร้างอาณาเขต ก็ไม่แปลกที่แมวจะกิน ดมกลิ่นอาหารทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร เพราะพฤติกรรมของแมวจะตัดสินว่า อาหารนั้นน่ารับประทานหรือไม่ผ่านกลิ่น คนเลี้ยงแมวรู้ดีว่าแมวเป็นสัตว์ที่จู้จี้จุกจิก ทุกส่วนของแมวมีความสำคัญ และจำเป็นต่อชีวิตของแมว เนื่องจากทุกอย่างต้องทำงานสอดประสานกับการดูแลแมวของคุณ
เพื่อให้เขามีสุขภาพแข็งแรงและแข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญมาก แต่ที่สำคัญอย่าลืมดูแลเขาอย่างสม่ำเสมอ ด้วยอาหารและอาหารแมว ที่มีคุณค่าทางโภชนาการเหมาะสม ผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพสูงที่คัดสรรมาอย่างดี เหมาะสำหรับแมวทุกวัย ให้ทุกอวัยวะของแมวไม่ว่า จะอยู่ที่ใดมีสุขภาพแข็งแรง ด้วย 3 สัญญาณสุขภาพใน 3 สัปดาห์คุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลง ในแมวของคุณอย่างแน่นอน
โรคพิษสุนัขบ้า โรคอันตรายที่แมวก็เป็นได้ เมื่อถึงหน้าร้อนหลายคน อาจนึกถึงโรคอันตรายอย่างโรคพิษสุนัขบ้า ที่ออกอาละวาดทุกปีหรือโรคกลัวน้ำ แต่คนเลี้ยงแมวอย่าเพิ่งเชื่อ เพราะโรคพิษสุนัขบ้าสามารถติดต่อสู่แมวได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ การติดต่อของมนุษย์ อาจรวมถึงการสัมผัสกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นแมวหรือมนุษย์ที่ติดเชื้อ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ มาเรียนรู้เกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้าในแมว
และวิธีป้องกันอย่างถูกต้องเพื่อให้ครอบครัวของคุณสบายใจ การอยู่ให้ห่างไกลจากภัยของโรคพิษสุนัขบ้าจะดีที่สุด ไวรัสโรคพิษสุนัขบ้า สามารถแพร่กระจายผ่านทางน้ำลายของสัตว์ป่วย เช่น การกัด ข่วนหรือเลียบาดแผล โรคนี้ติดต่อในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทำให้ไวรัส ในน้ำลายสามารถเข้าสู่บาดแผลได้ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นคน สุนัขหรือแมวก็สามารถติดโรคพิษสุนัขบ้าได้ นอกจากนี้ยังพบสัตว์ป่า เช่น ค้างคาว ลิง สุนัขจิ้งจอกติดเชื้อด้วย
เมื่อแมวติดไวรัส มันจะพุ่งเป้าไปที่ระบบประสาท อาการของโรคพิษสุนัขบ้าในแมวโดยทั่วไปจะทำให้สัตว์ที่ติดเชื้อเสียชีวิตภายใน 10 วัน อาการเหล่านี้รวมถึงความหงุดหงิด พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงและอัมพาตในที่สุด นอกจากนี้ แมวที่เป็นโรคพิษสุนัขบ้าจะแสดงอาการทรงตัวผิดปกติ ในช่วงระยะอัมพาต อาจเกิดอัมพาตบางส่วนหรือทั้งหมด น้ำลายไหลมากเกินไป และอาการกลัวน้ำ
โรคนี้ป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน วัคซีนเข็มแรกเริ่มเมื่ออายุประมาณ 4 เดือน เข็มที่สองให้เมื่ออายุ 6 เดือน และกระตุ้นการฉีดวัคซีนเป็นประจำทุกปี หากคุณสงสัยว่า แมวของคุณเป็นโรคพิษสุนัขบ้า คุณควรพามันไปพบสัตวแพทย์ทันที และรายงานข้อมูลด้านสุขภาพ เช่น ประวัติการได้รับวัคซีน และลักษณะประวัติการรักษาพยาบาลให้ครบถ้วน เพื่อให้แพทย์สามารถวินิจฉัยต่อไปได้
บทความที่น่าสนใจ สัตว์เลี้ยง การศึกษาเกี่ยวกับคำแนะนำในการเลี้ยงแมวที่กำลังตั้งท้อง